Skip to content
Home » Blog » Salary man VS Business owner คุณจะเลือกแบบไหน?

Salary man VS Business owner คุณจะเลือกแบบไหน?

ในปัจจุบันแนวคิดของการออกจากงานประจำ แล้วออกมาตามหาฝันเป็นเรื่องที่คนให้ความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่หันมาสนใจแนวคิดนี้ แล้วแบบไหนที่ดีกว่ากัน อาจขึ้นอยู่กับมุมมองและประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา เด็กรุ่นใหม่บางคนก็มีความคิดและวางแผนไว้แล้วตั้งแต่ตอนเรียน สำหรับอนาคตที่จะเดินตามสายที่ตัวเองเรียนมาเลือกหางานประจำที่อาจจะมั่นคงหรือไม่มั่นคงก็ได้

แต่ในบางคนก็เลือกแล้วเหมือนกัน ที่จะเดินในเส้นทางที่มีความเป็นอิสระ ไม่ต้องอยู่ในกรอบ ไม่อยากเป็นลูกจ้างใคร แต่อยากเป็นนายตัวเอง ซึ่งมีความอิสระมากกว่า จะมั่นคงหรือไม่มั่นคงก็ยังไม่มีใครตอบได้เช่นกัน นอกจากต้องลงสนามด้วยตัวเอง ทั้ง 2 แบบจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร เปรียบเทียบและลองนำมาวิเคราะห์กันดู ว่าเราจะเลือกแบบไหนดี


Salary man – มนุษย์เงินเดือน

 

ข้อดี

Salary man VS business owner แบบไหนจะเจ๋งกว่ากัน

หากพูดในเรื่องของเนื้องาน งานประจำอาจไม่ได้มีปัญหามากนักเพราะเป็นงานที่เรานั้นทำเป็นประจำ หากเกิดปัญหาก็สามารถแก้ไขให้ผ่านไปได้ เรียกว่าเป็นงานRoutine ก็ไม่ผิด เพราะเราทำซ้ำๆ เหมือนเดิมในทุกๆวัน ก็ทำให้งานไม่ได้มีปัญหาอะไร และจัดการตารางชีวิตได้แน่นอนเพราะเวลาทำงานชัดเจน เช่น 8.00-17.00 น.

ในส่วนของความมั่นคงและความเสี่ยงจะเรียกว่ามั่นคงก็ถูกต้อง เพราะสุดท้ายแล้วพอถึงสิ้นเดือนเราจะได้รับเงินเดือนตามจำนวนที่ตกลงไว้กับทางบริษัท ไม่ต้องลุ้นว่าสิ้นเดือนจะได้เงินเท่าไหร่ สามารถจัดสรรค่าใช้จ่ายในชีวิตได้ดีกว่า เพราะเรารู้รายรับที่แน่นอน วางแผนให้ดีก็สามารถนำไปลงทุนเพื่ออนาคตได้

และที่สำคัญที่สุดคงเป็นในเรื่องของสวัสดิการต่างๆ ทั้งประกันสังคม ประกันสุขภาพที่บางบริษัทมีให้ เงินสำรองเลี้ยงชีพ โบนัส และเบี้ยเลี้ยงอะไรต่างๆเหล่านี้ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นสวัสดิการที่เพิ่มความมั่นใจให้กับเรา ในช่วงที่บริษัทยังจ้างเราอยู่

ข้อเสีย

Salary man VS business owner แบบไหนจะเจ๋งกว่ากัน

รายได้ที่มั่นคงแต่ทำมากแค่ไหนก็ได้แค่นั้น และมั่นคงแค่ไหนสุดท้ายก็มีความเสี่ยงอยู่ดี เราอาจไม่รู้เลยว่าในขณะที่เราทำงานนั้น บริษัทแบกรับต้นทุนอะไรไว้บ้าง หรือช่วงไหนที่บริษัทขาดทุน จนถึงจุดที่ไม่ไหว ทำให้เกิดการเลิกจ้างในทันที และเราเองก็ไม่ได้คิดหรือวางแผนมาก่อน ซึ่งเห็นได้บ่อยๆในข่าว พนักงานตกงานโดยไม่รู้ตัว บริษัทปิดตัวลง เป็นต้น

ตรงนี้จะเห็นได้ว่าทางออกที่ดีที่สุด ของมนุษย์เงินเดือนคือการหารายได้เพิ่มช่องทางอื่นนอกจากงานประจำ เกิดกรณีแบบนี้เรายังมีรายรับเข้ามาให้ใช้จ่ายได้บ้าง และไม่กระทบมาก ในเรื่องของงานการทำงานแบบเดิมๆก็นับว่าดี แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง ด้วยความจำเจในเนื้องาน เกิดการหมดไฟในการทำงาน กลายเป็นความเบื่อ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นอีกแล้ว แต่ตรงนี้อาจเกิดขึ้นกับแต่ละบุคคล

Business owner – เจ้าของธุรกิจ

ข้อดี

Salary man VS business owner แบบไหนจะเจ๋งกว่ากัน

ถึงจะแบกรับความเสี่ยงมากมาย แต่อย่างน้อยก็มีความสบายใจ และมีกิจการหรือธุรกิจเป็นของตัวเอง มีอิสระทางความคิด และตัดสินใจ และถึงรายได้จะไม่มั่นคง แต่อย่าลืมว่ารายได้ก็ไม่มีสิ้นสุดด้วยเหมือนกัน ทำมากได้มาก แต่หากคุณยังเป็นลูกจ้างรายได้ที่คุณได้รับก็ไม่มากไปกว่าเดิม หรือหากเพิ่มก็ไม่มาก เป็นรายได้ที่คงที่

ถ้าเทียบกับเจ้าของธุรกิจสามารถทำรายได้อย่างไม่จำกัด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการด้วย และยังได้ท้าทายตัวเองมากกว่าเดิม ได้รู้ศักยภาพของตัวเอง ที่คุณเองอาจคิดไม่ถึงเลยก็ได้ ถึงจะยากต้องเจอปัญหามากมาย แต่หากทำได้คุณจะภูมิใจในตัวเองอย่างมากเลยล่ะ ไปดูข้อเสียกันบ้าง

ข้อเสีย

Salary man VS business owner แบบไหนจะเจ๋งกว่ากัน

สิ่งที่เจ้าของกิจการ หรือเป็นนายตัวเองต้องแบกรับมีมากมาย ทั้งเงินเดือนลูกจ้าง ทั้งต้นทุนทางธุรกิจต่างๆ มีสิ่งที่ต้องคิดมากกว่ามนุษย์เงินเดือนหลายเท่าที่รับผิดชอบแค่งานในส่วนของตัวเอง และยังมีรายรับที่ไม่แน่นอนอีก ในแต่ละวัน หรือแต่ละเดือน จะมียอดขาย หรือรายรับเท่าไหร่ไม่สามารถคาดเดาได้ จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีเงินทุนสำรองไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน

เมื่อรายได้ไม่แน่นอน ไม่สม่ำเสมอ การจะขอสินเชื่อหรือดำเนินการกับธนาคารจึงเป็นเรื่องที่ยากกว่า นอกเสียจากคุณจะมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และยังมีความเสี่ยงมากกว่า หากปัจจัยภายนอกไม่ว่าจะเศรษฐกิจ ดินฟ้าอากาศหรือคนในองค์กรตัวเอง มีผลกับรายได้หลักของกิจการ และรวมไปถึงเรื่องของสวัสดิการต่างๆที่อาจไม่มีเหมือนพนักงานประจำ

อีกทั้งมีเวลาที่ไม่แน่นอนในแต่ละวัน ทำให้การจัดสรรเวลาชีวิตนั้นยาก เช่น วันนี้ลูกน้องป่วย ของที่สั่งไม่มาส่ง ซึ่งปัญหาต่างๆเหล่านี้ คุณต้องเข้ามาแก้ปัญหาเอง ทำให้ไม่มีเวลาเป็นของตัวเองมากนัก หรือถ้าหากต้องปิดร้าน หยุดกิจการก็ไม่มีรายได้เข้าร้านเป็นต้น ในขณะเดียวกันที่มนุษย์เงินเดือนถึงเป็นช่วงพักร้อนหรือวันหยุด ก็ยังมีรายได้สม่ำเสมอ ยังมีข้อเสียอีกหลายอย่าง ที่คุณอาจต้องชั่งน้ำหนักดูให้ดี ว่าคุณพร้อมแล้วหรือยัง


บทสรุป

หากจะให้สรุปถึงว่ามนุษย์เงินเดือนและเจ้าของธุรกิจ แบบไหนดีกว่า คงตัดสินแทนกันไม่ได้จริงๆ ต้องดูกันหลายปัจจัยและความถนัดของแต่ละบุคคลด้วย หรืออาจจะเลือกเป็นมนุษย์เงินเดือนในช่วงแรก แต่ก็หารายได้เพิ่มอีก 1 ช่องทาง ด้วยการเปิดธุกิจของตัวเองไปพร้อมๆกัน เพราะเราไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน ทำเป็นร้านค้าออนไลน์ได้ โดยที่จัดการทุกอย่างได้บนมือถือ การมีรายได้ทางเดียวก็คือความเสี่ยงอย่างหนึ่ง

เมื่อเรามั่นใจว่าธุรกิจจะไปรอดและอยู่ตัว จากนั้นจึงจะออกจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน และออกมาพัฒนาธุรกิจของตัวเอง แต่อย่างไงก็ตามเราข้อสำคัญคือควรต้องมีช่องทางหารายได้เพิ่มอีกทางอยู่เพื่อลดความเสี่ยง หากใครยังลังเลและตัดสินใจไม่ได้ ให้ลองค้นหาตัวเองดูก่อน เมื่อแน่ใจแล้วจึงลงมือทำ

โดยระหว่างนี้คุณก็สามารถเข้ามาที่เว็บ Lucagame168 ของเราที่สามารถหารายได้เพิ่มอีกทางจากคาสิโนออนไลน์เว็บตรงได้ทุกวัน ไม่ยุ่งยาก ลงทุนขั้นต่ำเพียงไม่กี่บาท แต่มีรายได้ไม่จำกัดแน่นอน สมัครเข้ามาเรียนรู้วิธีการทำเงินคาสิโนออนไลน์จ่ายจริงกับเราได้ตลอด 24 ชม.ที่ Lucagame168เว็บตรง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *