คริปโตเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักลงทุนคนรุ่นใหม่ เพราะคริปโตนั้นต่างจากหุ้น ตรงที่ตลาดนั้นเปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน เพราะราคามีความผันผวนมาก ตามสถานการณ์ และDemand supply ในขณะนั้น เราอาจเคยได้ยินคำต่างๆที่เกียวข้องกับคริปโตมาบ้าง อย่างเช่น .ตกรถ ติดดอย ตลาดหมี BTC และยังมีอีกมากมายหลายคำ หากใครที่สนใจการลงทุนประเภทนี้ก็จะต้องศึกษาให้ดี เพราะแน่นอนไม่มีการลงทุนชนิดไหน ที่ไม่มีความเสี่ยง
รู้ก่อนลงทุน กับคำศัพท์ในโลกคริปโตเคอเรนซี่
Crypto หรือ Cryptocurrency จัดเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่กำลังความนิยมในหมู่นักลงทุนรุ่นใหม่ และรุ่นเก่า คริปโตคืออะไร พูดแบบเข้าใจง่ายๆคือ คริปโตก็เป็นสกุลเงินดิจิตอลชนิดหนึ่ง ที่นำมาซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนสิ่งของใดๆได้เหมือนกับเงินบาท เราเป็นเจ้าของได้ ครอบครองได้ แต่เราไม่สามารถจะจับต้องได้เหมือนเงินที่เราใช้กันปกติ
และสกุลเงินนี้ไม่ได้ออกโดยธนาคารกลาง แต่ออกโดยคนทั่วไป และยังไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฏหมายอีกด้วย ใครที่ไม่เคยศึกษากับมันอย่างจริงจัง ก็คงไม่เข้าใจกับคำหลายๆคำที่เคยได้ยินว่ามันคืออะไร หมายความว่าอย่างไร คุณไม่ได้งงอยู่คนเดียว อาจจะยังมีสับสนกันอยู่บ้างในบางที ถึงแม้จะเคยผ่านการเทรดเจ้าคริปโตมาบ้าง วันนี้มีคำศัพท์ที่เรามักได้ยินกันบ่อยๆในโลกคริปโตมาให้รู้จักกันแบบคร่าวๆตามที่ผู้เขียนเข้าใจ
DCA
ย่อมาจาก Dollar-Cost Averaging เรียกว่าเป็นกลยุทธ์ๆหนึ่งในการลงทุนก็ได้ และใช้ได้กับทุกการลงทุน ไม่ว่าจะหุ้น หรือคริปโตเอง การลงทุนแบบนี้คือการลงทุนแบบสม่ำเสมอ และมีวินัย ตัวอย่างเช่น. ผู้เขียนอยากลงทุนกับ ETH ก็จะกำหนดเป้าหมายของตัวเองเลยว่า จะลงทุนกับETHทุกวันที่ 1 ของเดือน โดยที่ไม่ได้มองราคาของETH ณ ตอนนั้น หรือไม่สนใจว่าจะเป็นช่วงขาขึ้น หรือขาลง เพราะเชื่อมั่นและหวังในตัวเหรียญว่าอีก 5-10 ยังไงก็ได้กำไรแน่นอน
ในทางกลับกันการดึงกำไรออกมาก็เหมือนกัน โดยการใช้กลยุทธ์แบบ DCA แทนที่จะถอนกำไรออกมาทั้งหมด หรือเป็นก้อนใหญ่ ก็ใช้วิธีถอนออกมาอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน อาจจะเดือนละ 1-2 เปอร์เซนต์ เป็นต้น
Holder
แปลกันแบบง่ายๆเลย ก็คือการที่คุณถือเหรียญใด เหรียญหนึ่งไว้เป็นระยะเวลานานๆ จะเป็นเหรียญกาว หรือเหรียญอะไรก็ตามแต่ จะไม่ขายเลยแม้ราคาจะตกลงไปแค่ไหน ซึ่งจะต่างกับนักลงทุนบางคนที่อาจจะเกิดอาการกลัวว่าราคาจะตกลงไปกว่านี้ จึงรีบขายออกไป ซึ่งตรงนี้อาจทำให้คนเหล่านั้นเสียโอกาสได้ หากในวันถัดมาเหรียญอาจมีราคาสูงขึ้นก็ได้ แต่การHold ผู้ถือจะไม่ขายเลย จนกว่าราคาจะขึ้นไปถึงจุดที่ตั้งไว้
Fomo
ย่อมาจาก Fear of Missing Out เป็นความรู้สึกของการที่คุณตื่นเต้น หรือตกใจกับเหรียญใดก็ตามที่กำลังเป็นกระแส ณตอนนั้น และกลัวที่จะพลาดโอกาสที่จะถือไว้ หรือพลาดกำไรที่เค้าได้กัน จนต้องไปหามาถือไว้ หรือเก็บไว้ในพอร์ท โดยอาจไม่รู้เลยว่าเหรียญนั้นที่ตอนนี้กำลังฮิตเหลือเกิน ราคาก็พุ่งเอาๆ แต่ในอีกวันราคากำลังอาจหล่นลงมา
ตัวอย่างเช่น ลงทุนกับคริปโต โดยที่เรานั้นสนใจกับเหรียญSand ที่กำลังราคาพุ่งอยู่ และกำลังเป็นเหรียญที่มีกระแสอย่างมาก มันกำลังขึ้นๆ ด้วยความที่ไม่ศึกษาให้ดี กลัวจะตกรถหรืออะไรก็ตามที่เป็นกระแส ก็ได้ซื้อมาเก็บไว้ในพอร์ท ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุของการขาดทุนในคริปโตได้ในหลายต่อหลายครั้ง และเชื่อว่าหลายๆคนอาจะต้องเคยเจอมาเหมือนกันแน่นอน
Rugpull
ความหมายตรงๆก็อาจจะหมายถึงการที่คุณถูกโกง โดยส่วนใหญ่ที่เจอกันในวงการคริปโต ก็อาจจะมีผู้สร้างเหรียญนึงขึ้นมา และทำให้คนหันมาซื้อ ขายเหรียญนั้นกันเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความต้องการเหรียญมีมากขึ้น และเมื่อเจ้าของหรือผู้ก่อตั้งเหรียญได้เงินจำนวนมากจากการซื้อเหรียญแล้ว โปรเจคต่างๆกลับปิดตัวลง พร้อมกับหอบเงินที่เราซื้อเหรียญนั้นหนีไปนั่นเอง
Memecoin
memecoin หรือที่เราได้ยินกันบ่อยในวงการคริปโต ว่าเหรียญกาว เช่น SHIB ที่ไม่ได้มีโปรเจคอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่มีการปั่นกระแสให้กับเหรียญ เพื่อให้ตัวเหรียญเองดูมีมูลค่าขึ้นมา เรียกว่าเป็นเหรียญที่เราซื้อ ขาย กันเล่นๆ เพื่อทำกำไรเท่านั้น ไม่ได้คาดหวังมากว่าเหรียญกาวแบบนี้จะไปได้ไกลมากน้อยแค่ไหน เพียงแต่เล่นไปตามกระแสในตอนนั้น
บทสรุป
การลงทุนมีข้อดีหลายอย่าง บางคนลงทุนเพื่ออยากจะเกษียณก่อนวัย บางคนลงทุนไว้เพื่อความมั่นคงในอนาคตที่ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง คนที่สนใจการลงทุนเกี่ยวกับคริปโต ขอแนะนำที่ Lucagame168 เรามีบริการมากมาย รวมถึงเกมคริปโตให้คุณได้ฝึกหัดลงทุน หรือศึกษาแถมยังได้เงินจริงอีกด้วย นอกเหนือจากนี้ยังมีเกมอื่นๆอีก สำหรับผู้ที่ชอบการลุ้น การเสี่ยงโชค คิดวิเคราะห์ อย่างสล็อตสุดปัง หวยออนไลน์ บาคาร่าเว็บตรง เราพร้อมให้คุณได้เพลิดเพลินกับทุกเกมได้ตลอด 24 ชั่วโมง ปลอดภัยได้มาตรฐานหายห่วง
