Skip to content
Home » Blog » แฉวีรกรรม 6 ตัวร้ายของโลกคริปโตที่เหล่านักเทรดสาบส่งมากที่สุดในปี 2022

แฉวีรกรรม 6 ตัวร้ายของโลกคริปโตที่เหล่านักเทรดสาบส่งมากที่สุดในปี 2022

  • by

นับเป็นปีแห่งหายนะของตลาด คริปโต โดยแท้จริง เพราะตั้งแต่ต้นปีราคาของ Bitcoin เหรียญอันดับหนึ่งของคริปโตนั้นร่วงมากว่า 70% ทำให้ตัวเลขเงินที่ไม่มีอยู่จริง เมื่อถึงเวลาราคาลงแล้วจำเป็นต้องขายกลับไม่มีเงินให้ลูกค้า เพราะด้วยความที่ทุกคนแห่กันขาย ทำให้กระดานเทรดหลายแห่งและบริษัทปล่อยกู้คริปโตนั้นล้มกันเป็นโดมิโน่ เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินข่าวคราวการล่มสลายของเหรียญ LUNA และการล่มสลายของกระดานเทรดชื่อดังอย่าง FTX มาบ้างแล้ว วันนี้เรามาดูวีรกรรมเหล่านี้ของพวกเขาที่ทำให้ นักลงทุนทั้งเกลียดและสาบแช่ง ทำไมถึงได้ ล่มสลาย เละเทะได้ขนาดนี้


แฉวีรกรรม 6 ตัวร้ายของโลกคริบโตที่เหล่านักเทรดสาบส่งมากที่สุดในปี 2022

Sam Bankman-Fried

Sam Bankman-Fried

“การฉ้อโกงอย่างจริงจัง และ การบริหารเงินลูกค้าในทางที่ผิด”

มาที่คนแรกก็เด็ดดวงเลย เหล่านักเทรดสถาบันทั้งหลาย แผลยังสดๆกันอยู่เลยใช่ไหม ?  ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชื่อนี้มาคนแรก เพราะ Sam Bankman-Fried คืออดีต CEO ของ FTX ซึ่งเป็นกระดานซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอลอันดับสองของโลก การที่ FTX ล่มสลายนั้นมีผลกระทบต่อตลาดคริปโตอย่างมาก นับเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดของตลาดคริปโตเลยก็ว่าได้

โดยมีการกล่าวหาว่า พ่อหนุ่มปริญญาจาก MIT ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับการบริหารงานภายในระหว่างบริษัท FTX กับ Alameda Research ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่ดูแลโดยเพื่อนสนิทของเขา จนกลายมาเป็น การล่มสลายเพราะขาดสภาพคล่องในบริษัท

นับตั้งแต่นั้นมาวันที่ 12 ธันวาคม ทางการประเทศบาฮามาส ได้ทำการจับกุมแซมและเพื่อนๆ แต่เหล่านักลงทุนต่างอยากเห็น แซมและเพื่อนๆของเขานั้นโดนลงโทษในประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาได้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนสำเร็จ จนเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม แซมได้ประกันตัวไปด้วยจำนวนเงินกว่า 250 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหลายคนยังคงคาดเดาเกี่ยวกับอนาคตของแซม ว่าจะโดนตัดสินกี่ปี และเป็นไปได้ว่าจะโดนโทษสถานหนักอย่างติดคุกตลอดชีวิตก็เป็นได้


Do Kwon

Do Kwon

“ถ้าไม่ฉลาด ก็เงียบปากไปซะ ไหนใครเป็น Billionaires ลองทำแบบที่มันบอกหน่อย แล้วดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

หนึ่งในคำตอบที่ Do Kwon ตอบกลับ ผู้ที่อุตส่าบอกช่องโหว่และวิธีโจมตี TerraUSD alogrithm ระบบของ LUNA และ USDT ด้วยวิธีของ George Soros ด้วยเงินทุนราว 1 Billoion USD

Do kwon หรือ โค ควอน เหล่านักลงทุนหลายท่านอาจจะอ่านว่า “โดคุไว” เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Terra ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ออกแบบมาให้ การชำระเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้วยความรวดเร็วและราคาถูก ทำให้เชนของ Terra ได้รับความนิยมมากในขณะนั้น และได้มีการเปิดตัว TerraUSD (UST) หรือที่เรียกง่ายๆว่า stable coin ของเชน Terra ด้วยผลตอบแทนมากถึง 20% ทำให้นักลงทุนรายย่อยถูกดึงดูด ด้วยผลตอบแทนสูง กลายเป็นการเติบโตที่รวดเร็วแต่ ‘ไม่ยั่งยืน’ ขณะนั้นมีผู้ใช้งานถึง 40 ล้านคน

โด ควอน มีนิสัยที่มั่นใจในตัวเองสูงและไม่ฟังใคร ครั้งหนึ่ง คิมฮยอนจุง หัวหน้าศูนย์วิจัยคริปโตที่ Korea University กล่าวว่า “โด ควอนกำลังเรียกร้องให้มีการกระจายอำนาจทางการเงิน แต่เขาตัดสินใจทั้งหมดโดยลำพัง เป็นเรื่องน่าขันที่การตัดสินใจของบริษัทมีศูนย์กลางอยู่ที่คนเพียงคนเดียว”

วิกฤตที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเกิดจากจุดอ่อนของระบบ Luna Foundation Guard หรือสกุลเงิน LFG ที่มีไว้ป้องกันแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และจึงเกิดการช็อตบิทคอยน์เพื่อโจมตีจุดอ่อนนี้

หลังจาการล่มสลายของ Terra เงินทุนจำนวน 45 พันล้านดอลลาร์หายไปจากตลาดคริปโตภายใน 7 วัน คาดว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนชาวเกาหลีใต้มากกว่า 200,000 ราย ทำให้นักลงทุนหลายกลุ่มทั้งในและต่างประเทศเกาหลีได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับโด ควอน

ในเดือนกันยายน สำนักงานอัยการเขตของกรุงโซลประกาศว่าได้เริ่มดำเนินการเพิกถอนหนังสือเดินทางของ โด ควอนแล้ว พร้อมกับประกาศ”หมายแดง” ของอินเตอร์โพล แก่ โด ควอน เป็นที่เรียบร้อย


Su Zhu and Kyle Davies

Su Zhu and Kyle Davies

Su Zhu and Kyle Davies คือผู้ก่อตั้ง Three Arrows Capital (3AC) โดยก่อตั้งเมื่อปี 2555 ก่อนการล่มสลาย มีรายงานว่ามีทรัพย์สิน 18,000 ล้านดอลลาร์

ในเดือนมีนาคม บริษัทวิเคราะห์ blockchain Nansen แนะนำว่า 3AC สามารถมีเงินเป็นหลักประกันประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สำหรับคริปโตเพียงอย่างเดียว ซึ่งพวกเขาได้นำเงินไปเก็งกำไรทั้งหมดใน Q1 2022

ก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นวายร้ายนั้น Davies และ Zhu ได้กลายเป็นชื่อที่รู้จักกันดีในแวดวงคริปโต โดย Zhu มีผู้ติดตาม Twitter มากกว่า 500,000 คน 3AC มีส่วนร่วมในโครงการที่ได้รับความนิยมหลายโครงการ ได้แก่ Aave, Avalanche, Luna, Deribit และ Ethereum

ในเดือนกรกฎาคม 2022 การยื่นฟ้องล้มละลายของกองทุน แสดงให้เห็นว่าบริษัทเป็นหนี้ 3.5 พันล้านดอลลาร์ในการเรียกร้องของเจ้าหนี้

สุดท้ายนี้ สังเกตว่าตลอดปี 2021 และ 2022 Zhu และ Davies สูญเสียมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ 3AC ล้ม อยู่ในรายชื่อการขาดทุนจากการซื้อขายกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดตลอดกาล


Alex Mashinsky

Alex Mashinsky

Alex Mashinsky เป็นผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของ Celsius Network ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการให้ยืม crypto ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในเดือนมิถุนายน เซลเซียสระงับการถอนเงิน การแลกเปลี่ยนและการโอนของลูกค้าอย่างกะทันหัน โดยอ้างถึงความปลอดภัยของลูกค้าและความผันผวนที่รุนแรง หลังจากนั้นไม่นาน บริษัทได้ยื่นขอล้มละลาย ซึ่งเผยให้เห็นช่องโหว่ในบัญชีมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์

ในช่วงเวลาแห่งความหายนะ เซลเซียสมีสินทรัพย์ 4.3 พันล้านดอลลาร์ โดยขาดทุนประมาณ 5.5 พันล้านดอลลาร์ เพียงหนึ่งเดือนก่อนที่ Celsius จะยื่นฟ้องล้มละลาย Mashinsky ได้ถอนเงิน cryptocurrency มากกว่า 10 ล้านดอลลาร์

ผู้บริหารบริษัทอื่นๆ หลายคน ซึ่งรวมถึงอดีตหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ Daniel Leon และหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี Nuke Goldstein ก็ถูกพบว่ามีการกระทำที่คล้ายกันเช่นกัน

ก่อนที่จะระงับเงินลูกค้า Celsius ของ Maskinsky เป็นหนึ่งในบริษัทชื่อดังที่สุดในตลาด crypto โดยถือครองสินเชื่อลูกค้ามากกว่า 8 พันล้านดอลลาร์และสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเกือบ 12 พันล้านดอลลาร์ บริษัทมีลูกค้ามากกว่า 1.7 ล้านราย โดยแต่ละรายเสนอผลตอบแทนสูงถึง 17% จากเงินฝาก crypto


Stephen Ehrlich

Stephen Ehrlich

Stephen Ehrlich เป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Voyager Digital ซึ่งเป็นนายหน้าซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ไม่กี่วันหลังจากการล้มละลายของเซลเซียส Voyager ได้ประกาศว่าจะหยุดการถอนเงินและการซื้อขายของลูกค้าทั้งหมด ยื่นฟ้องล้มละลายในอีกสี่วันต่อมา ในไม่ช้าก็เห็นได้ชัด ว่าเหตุผลหลักของการล่มสลายของ Voyager คือการกู้ยืมเงินจำนวน 670 ล้านดอลลาร์แก่ 3AC

อย่างไรก็ตาม Stephen Ehrlich ซีอีโอของ Voyager กล่าวว่า แม้จะมีความเชื่อมั่นอย่างแข็งแกร่งในอนาคตของอุตสาหกรรมคริปโต แต่ด้วยความผันผวนที่ยืดเยื้อในตลาดประกอบกับการผิดนัดชำระหนี้ของ Three Arrows Capital ทำให้บริษัทต้องตัดสินใจยื่นขอล้มละลายในครั้งนี้

ขณะที่บริษัท Vauld เองก็ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกับ Voyager หลังเพิ่งประกาศหยุดการถอน การฝาก และการซื้อขายทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม และล่าสุดวานนี้ Vauld เพิ่งได้รับข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการจาก Nexo ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งหลังจากที่ Vauld ดูท่าจะไม่รอด


บทสรุป

ตลาด คริปโต กำลังเผชิญกับวิกฤตสภาพคล่องอย่างรุนแรงหลาย แพลตฟอร์มต่างดิ้นรน เพื่อรับมือกับการถอนเงินจากลูกค้าอย่างมหาศาลท่ามกลางราคาสกุลเงินดิจิทัลที่ลดลงอย่างรวดเร็ว

จุดเริ่มต้นของตลาด คริปโต ตกต่ำ เริ่มมาจากการลดลงของราคาสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกในวงกวาง เนื่องจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐที่เริ่มใช้มาตรการทางการเงินที่เข้มงวดขึ้น และซ้ำเติมความเลวร้ายลงไปอีกด้วยการ ล่มสลาย ของอัลกอริธึม Stablecoin TerraUSD (UST) มูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ และการล่มสลายของกระดานอันดับสองของโลกอย่าง FTX ทุกวิกฤตมีโอกาสเสมอ คุณอาจจะเสียความเชื่อมั่นในเว็บต่างๆที่กำลังจะล่มสลาย ซึ่งที่กล่าวมานั้น จะไม่เกิดขึ้นที่ lucagame168 ของเราแน่นอน เพราะเราเป็นเว็บที่ได้รับความเชื่อถือไว้ใจมาอย่างยาวนาน อีกทั้งเรายังมีเกมการเล่นคริปโต ซึ่งดีกว่า FTX ด้วยซ้ำ แถมยังมีทีมงานที่ถูกเทรนมาอย่างดี ไม่มีการนำเงินลูกค้าไปลงทุนต่ออย่างแน่นอน

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *